21 July 2013

Mechanical Keyboard

ชีวิตปกติก็เล่น Facebook เรื่อง เข้าเว็บบอร์ดเกมออนไลน์บ้าง มีภาพอันนึงซ้ำผ่านตาหลายๆรอบ แต่ไม่รู้อะไร นึกยังไงก็นึกไม่ออก จนมาเจอโฆษณาอันนึงบน Facebook คีย์บอร์ดมีไฟส่องขึ้นมาจากใต้แป้น สวยดี ไอ้นี่นี่เองที่กำลังฮิตในวงการเกม อยากได้ขึ้นมาทันที จึงทำการบ้านหาข้อมูลคีย์บอร์ดชนิดนี้ทันที

 Backlit keyboard มีราคาสูงกว่า 2,000 บาท ทำให้สงสัยว่าอะไรทำให้คีย์บอร์ดพวกนี้แพงกว่ากลุ่มอื่น เมื่อศึกษาเพิ่มเติม ก็เข้าใจได้ว่าคีย์บอร์ดมี 2 ประเภทหลัก คือ Mechanical Keyboard (ราคามากกว่า 2,000 บาท) และ คีย์บอร์ดทั่วไป

คีย์บอร์ดโดยทั่วไปเรียกว่า Membrane Keyboard โดยภายใต้แผงคีย์บอร์ดเป็นแผ่นพลาสติกนิ่มขนาดใหญ่ เพราะความนิ่มของพลาสติก ทำให้ไม่แน่ใจว่าได้กดแป้นไปแล้วรึยัง และผู้ใช้ต้องกดแป้นแรงกว่าที่ควร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าปุ่มได้ถูกกดแล้ว

Mechanical Keyboard คือ คีย์บอร์ดที่แต่ละปุ่มเป็น switch (on/off)  โดย switch มีราคาแยกขายปลีกที่ราคาเฉลี่ยตัวละ 30 บาท และคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์มีประมาณ 120 ปุ่ม ทุกปุ่มที่เพิ่มขึ้นเป็นจะทำให้สินค้ามีต้นทุนที่สูงขึ้น ดังนั้น Mechanical Keyboard จึงมีราคาแพง

จุดเด่นหลักของ Mechanical Keyboard คือ ความรู้สึกได้ว่ากดปุ่มลงไปแล้ว ตอบสนองมา 2 รูปแบบ แบบแรกคือเสียง เนื่องจากแต่ละปุ่มเป็น switch ที่เป็นพลาสติกแข็ง ทำให้คีย์บอร์ดมีเสียงดัง และอีกแบบนึงคือ แรงหนืดผ่านปุ่มกดมาสู่นิ้ว (tactile feedback) โดยปุ่มจะมีความหนืดหลังจากกดไปได้ครึ่งทาง เป็นตัวยืนยันว่าปุ่มได้ถูกกดแล้ว

การตอบสนองไม่ดีของ Membrane Keyboard ทำให้คนหันมาสนใจ Mechanical Keyboard โดยเฉพาะผู้เล่นเกม การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ช่วยพลิกเกมจากแพ้เป็นชนะได้ และผู้ที่ต้องพิมพ์เป็นประจำอย่างนักเขียน หรือโปรแกรมเมอร์ จะพิมพ์ได้รวดเร็วขึ้นโดยใช้ Mechanical Keyboard

อย่างไรก็ตาม Mechanical Keyboard นั้นมีข้อจำกัดที่ทำให้เป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มคนวงแคบอยู่เพราะมีราคาสูง ต้องมีเงินอย่างน้อย 2,500 บาท

ควรซื้อมั้ย? ถ้ามีเงินเหลือจากการประกอบคอมพิวเตอร์ และอยากได้มิติประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้จากการอัพเกรดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชิ้นอื่น ก็น่าลอง


สิ่งที่ควรรู้เพิ่ม หากต้องการซื้อ Mechanical Keyboard:

Switch ที่ได้รับความนิยม มี 4 ประเภทดังต่อไปนี้
  • Cherry Blue MX - เมื่อกดปุ่มไปครึ่งทาง จะรู้สึกสะดุด และมีเสียงดังคลิก (เสียงดังกว่า switch ตัวอื่น) เหมาะสำหรับการพิมพ์งาน
  • Cherry Red MX - ไม่มีสะดุด ออกแรงน้อย เหมาะสำหรับการเล่นเกม
  • Cherry Brown MX - เหมือน Blue แต่ไม่มีเสียงดังคลิก เหมาะสำหรับพิมพ์งานเป็นหลัก เล่นเกมเป็นรอง
  • Cherry Black MX - เหมือนกับ Red ตอบสนองดี ดีดตัวคืนเร็ว แต่ต้องออกแรงกดมากกว่า


No comments:

Post a Comment