My Trip to Shanghai 2013

บันทึกการเดินทางไปเซี่ยงไฮ้

คมนาคม

•  มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงชื่อ Maglev อารมณ์เดียว airport link บ้านเรา คือ เป็นรถไฟที่ต่อเข้าสนามบิน แต่เดินทางด้วยความเร็ว 300 km/hr ค่าใช้จ่ายประมาณ 80 yuan/50 km
• รถไฟเป็นทั้งบนดินและใต้ดินผสมกัน มีมากกว่า 14 สาย ราคาเริ่มต้นที่ 1Yuan โดยปกติที่เดินทางจะเสียเงินประมาณ 4 Yuan ต่อรอบ
• รถไฟแน่นตลอดเวลา ซาลงเล็กน้อยในช่วงที่ไม่ใช่ Rush Hour
• รถเมล์เริ่มต้นที่ 2 Yuan
• ท้องถนน กดแตรกันเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะตอนไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียว
• Taxi
• เริ่มต้นที่ 12 Yuan
• เก็บค่าโดยสารแพงขึ้นเท่าตัว หลัง 4 ทุ่ม
• เก้าอี้คนขับมีที่ครอบใสบริเวณป้องกันการโดนจี้
• ห้ามผู้โดยสารนั่งเกิน 4 คน
• ตอนอากาศเย็นรถยนต์มักจะเปิดหน้าต่างรับลม ส่วนตอนอากาศร้อนจะปิดกระจกและเปิดแอร์
• รถหรูยอดฮิต คือ Audi ส่วนรถตลาด คือ Volkswagen
• มีเลนถนนสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ
• มอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อน ใช้เลนเดียวกับจักรยาน

อาหาร

• อาหารทั่วไป มีลักษณะผัด ทอด และมีน้ำมันเยอะ
• กบหาได้ทั่วไป
• เสี่ยวหลงเปา ซาลาเปาทอดมีน้ำซุปในไส้ เป็นอาหารพื้นฐาน อร่อยและหาได้ทั่วไป
• ไม่ค่อยมีขนมจีบขาย
• ชามะนาว รสชาติไม่หวานเหมือนของไทย
• ห้ามให้ติ๊ปแก่พนักงาน เพราะเป็นการดูถูก
• ไม่ควรห่อของกลับบ้าน เพราะเป็นการเสียหน้า
• ราคาอาหารเฉลี่ยสูงกว่าของไทย โดยเริ่มต้นที่ราว 10 Yuan
• เหลา(ร้านอาหาร) เสิร์ฟน้ำชาร้อนเป็นหลัก
• Dairy's Queen ราคาเท่า Swensen's บ้านเรา

เมือง

• มีตึกสูงเยอะมาก เทียบเท่าการมีย่านสาทรทั้งกรุงเทพฯ
• เมืองสะอาด พื้นถนน ทางเดินทางแข็งแรง ไม่มีสุนัขจรจัด
• ไม่มีการเป็นเจ้าของบ้านถาวร ถือครองสูงสุดได้เพียง 70 ปี
• มีแหล่ง Walking Street 

 ห้าง

• มีห้างที่ขายสินค้า Outlet โดยเฉพาะ ลดกันแรงมาก 30%-70% เช่น New Balance ราคา หนึ่งพันนิดๆ เทียบกับของไทยที่ขายอยู่ราว 3,000 บาท
• ติดป้ายลดราคาไม่เหมือนบ้านเรา ถ้าสินค้า 1,000 ลด 70% จะเขียนว่าราคา 30%
• ห้าง Discount Store ที่ฮิต คือ Walmart
• Minimart ที่เห็นถี่ คือ Family Mart

อินเตอร์เน็ต

• ห้ามใช้ Facebook, Twitter
• เน็ตช้าและแพง 100MB ต่อ 75 Yuan

คนจีน

• คนจีนส่วนใหญ่พูดได้แต่ภาษาจีนกลาง ส่วนภาษาอังกฤษคุยได้แค่ในสนามบิน
• แถบสนามบินและแถบรถไฟสถานีหลัก มักมีแก๊งแท๊กซี่โก่งราคาแถมตื้อเก่งมาก
• คุยกันปกติเสียงดังมาก อย่างกับทะเลาะกัน
• หากมีใครแซงแถว ก็ด่ากันตรงนั้น แต่ไม่ได้ลงไม้ลงมือ
• ผู้คนดูหุ่นดีกว่าคนไทย และไม่ค่อยมีคนอ้วนมาก
• ผู้หญิงไม่ค่อยแต่งหน้า และไม่ดูแลตัวเองเท่าคนไทย
• มีลูกได้คนเดียว หากต้องการมี 2 คน ต้องพ่อแม่จบปริญญาโททั้งคู่ และเป็นลูกคนเดียวมาก่อน

พิธีรับปริญญา

• ไม่มีการจ้างช่างกล้อง ไม่จริงจังเท่าคนไทย  อารมณ์งานกีฬาสีนักเรียนบ้านเรา
• ไม่มีการใส่ชุดยูนิฟอร์มใต้เสื้อครุย ทำให้การแต่งการหลากหลายมาก มีทั้งกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ

 อื่นๆ

• มีบ่อน้ำร้อนออนเซ็น เหมือนของญี่ปุ่น โดยที่ทุกคนแก้ผ้าเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน (แยกชายหญิง)